🇨🇳 มองโกเลียใน (Inner Mongolia) คืออะไร ?
มองโกเลียใน คือเขตปกครองตนเองทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่มีพรมแดนติดกับประเทศมองโกเลีย (Outer Mongolia) ที่นี่โดดเด่นด้วย ทุ่งหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา วัฒนธรรมเร่ร่อนแบบมองโกลแท้ และประวัติศาสตร์โบราณอันลึกซึ้ง ใครที่อยากสัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม... เที่ยวมองโกเลียใน คือคำตอบที่แตกต่างจากจีนในแบบที่คุณเคยรู้จัก!
มองโกเลียใน ถือว่าเป็นเขตการปกครองตนเองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ศิลปะพุทธที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมเร่ร่อนโบราณของชาวมองโกล และนี่คือ 5 สถานที่ เที่ยวมองโกเลียใน ที่คุณไม่ควรพลาด! เเละยังมีไฮไลต์อื่น ๆ อีกมากมาย นั่นคือ การนอนกระโจม ชมดาว… สัมผัสวิถีมองโกลแท้ที่มองโกเลียใน
รวม 5 สถานที่ไฮไลต์ เที่ยวมองโกเลียใน
1. ทุ่งหญ้าซีลามูเหริน Xilamuren Grassland
ทุ่งหญ้าซีลามูเหริน เป็นทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองฮูฮอต (Hohhot) ประมาณ 90 กิโลเมตร ทุ่งหญ้านี้มี ชื่อเรียกว่า "ซีลามูเหริน" ที่แปลว่า "แม่น้ำเหลือง" ในภาษามองโกล ทุ่งหญ้าซีลามูเหรินยังเคยเป็นเส้นทางเดินทางและพื้นที่ตั้งค่ายของชนเผ่าเร่ร่อนในอดีต โดยเฉพาะชาวมองโกลที่ใช้พื้นที่นี้ในการเลี้ยงสัตว์และพักอาศัยในฤดูร้อนมานานนับพันปี จึงถือเป็นพื้นที่ที่สืบทอดวิถีชีวิตแบบเร่ร่อนดั้งเดิมของชาวมองโกลได้อย่างสมบูรณ์ และยังเป็นหนึ่งในทุ่งหญ้าที่เดินทางง่ายที่สุดในมองโกเลียใน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนเผ่ามองโกล
ซึ่งที่นี่มีไฮไลต์ในการท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การนอนพักค้างคืนในกระโจม (Yurt) ที่สามารถมองเห็นดาวได้เต็มท้องฟ้า ชิมชาเนยและอาหารพื้นเมืองของชาวมองโกล ชมโชว์การแสดงแข่งม้าและมวยปล้ำแบบดั้งเดิม สำหรับช่วงที่สวยที่สุดในการท่องเที่ยวมองโกเลียใน คือ ช่วงฤดูร้อน–ต้นใบไม้ร่วง (มิถุนายน – ตุลาคม) เป็นช่วงที่ทุ่งหญ้าเขียวขจีและอากาศเย็นสบาย
2. สุสานเจงกีสข่าน Genghis Khan Mausoleum
สุสานเจงกีสข่านของมองโกเลียใน ตั้งอยู่ที่เมืองออร์ดอส Ordos ศูนย์รวมจิตใจของชาวมองโกล สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง “เจงกีสข่าน” ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ที่รวมแผ่นดินมองโกลและก่อตั้งอาณาจักรที่กว้างใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์โดยรัฐบาลจีน และเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม พร้อมนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตและตำนานของเจงกีสข่าน
สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกใน สมัยราชวงศ์หมิง (ประมาณศตวรรษที่ 14–15) และมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในยุคปัจจุบัน โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบมองโกลร่วมสมัย มีลักษณะที่โดดเด่น คือ อาคารหลักมีหลังคาทรงโดมคล้ายกระโจมมองโกล (Yurt) ขนาดยักษ์ ภายในยังมีห้องโถงบูชา โลงศพจำลอง เครื่องเซ่นไหว้ และธงศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงมีการเก็บรักษาธงวิญญาณ ซึ่งเป็นธงโบราณที่เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณเจงกีสข่าน
3. ทะเลทรายเสี่ยงซาวาน Xiangshawan Desert
เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่ เกิดเสียงได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์หายากมากในโลก เรียกว่า “เสียงร้องของทราย” หรือ "Singing Sand Phenomenon" เสียงดังกล่าวเกิดจากการเสียดสีกันของเม็ดทรายที่แห้ง สะอาด และมีลักษณะเฉพาะ เมื่อผู้คนเดิน ลื่นไถล หรือกลิ้งตัวลงจากเนินสูง จะได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงดนตรีจากธรรมชาติ จึงเป็นที่มาของชื่อ ทะเลทรายเสียงเพลง ซึ่งในอดีต พื้นที่นี้เคยเป็น จุดพักของกองคาราวาน บนเส้นทางค้าข้ามทะเลทราย และชนเผ่าเร่ร่อนก็ใช้พื้นที่โดยรอบในการเดินทางและเลี้ยงสัตว์ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของมองโกเลียใน
ทะเลทรายเสี่ยงซาวาน มีกิจกรรมท่องเที่ยวผจญภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การขี่อูฐแบบคาราวานชมวิวทะเลทราย, ขับรถ ATV / Dune Buggy ลุยกลางทะเลทราย, นั่งกระเช้าลอยฟ้า (Cable Car) ชมวิวจากมุมสูง สำหรับช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวทะเลทราย คือ ฤดูร้อน (มิถุนายน – ตุลาคม) อากาศดี ทะเลทรายไม่หนาวจัด
4. ถ้ำหินหยุนกัง Yungang Grottoes
ถ้ำหินหยุนกัง เป็นถ้ำหินพุทธศิลป์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ตั้งอยู่ที่เมืองต้าถง ใกล้ชายแดนมองโกเลียใน ถูกสร้างในช่วงราชวงศ์เว่ยเหนือ (ค.ศ. 460–525) โดยมีอิทธิพลศิลปะจากอินเดีย, เอเชียกลาง และจีน เป็นมรดกโลกที่รวบรวมพระพุทธรูปหินแกะสลักกว่า 50,000 องค์ ในถ้ำกว่า 250 แห่ง มีทั้งพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงถึง 17 เมตร ไปจนถึงรูปสลักขนาดเล็กที่ละเอียดประณีตมากผนังถ้ำและเพดาน เต็มไปด้วยลวดลายพุทธประวัติ เทพเจ้า และลวดลายแบบจีน – เปอร์เซีย – อินเดีย อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น : มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 2001
5. วัดเสวียนคงสือ หรือ อารามลอยฟ้า Xuankong Temple
วัดมหัศจรรย์ที่สร้าง “ห้อยอยู่” ริมหน้าผาสูงกว่า 75 เมตร ตั้งอยู่เชิงเขาฮั่นซาน (Hengshan) ไม่ไกลจากถ้ำหินหยุนกัง สร้างมาตั้งแต่ราชวงศ์เว่ยเหนือกว่า 1,500 ปีก่อน โครงสร้างทางวิศวกรรม (อัจฉริยะของจีนโบราณ) ตัวอาคารทำจากไม้ทั้งหมด แต่มั่นคงมากจนยืนหยัดมากว่า 1,500 ปี ใช้เทคนิค “เสาเสียบหิน” (inserted beam construction) เสาไม้ฝังเข้าในหน้าผาลึกหลายเมตร โครงสร้างหลักแบ่งเป็น 3 ชั้น สลับลดหลั่นกันตามความสูงของหน้าผา จากด้านล่างแทบมองไม่เห็นฐานรองรับ ทำให้วัดดูเหมือน “ลอย” อยู่ในอากาศจริงๆ
ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวสำหรับ วัดอารามลอยฟ้า มีระเบียงไม้แคบๆ ที่ทอดตัวตามหน้าผา เหมาะสำหรับคนใจแข็ง! มีศาลาขนาดเล็ก จำนวน 40 กว่าแห่ง เรียงอยู่ตามความสูงของผนังเขา ห้องพระขนาดเล็ก ที่ประดิษฐานเทพเจ้าหลายองค์แบบผสมผสาน มุมที่ควรมองจากด้านล่างขึ้นไป ซึ่งจะเห็นวัดทั้งหลัง “ห้อยอยู่” ราวกับไร้น้ำหนัก
หากคุณกำลังมองหาทริปเส้นทางจีนแบบใหม่ เที่ยวธรรมชาติ ผจญภัย และเรียนรู้วัฒนธรรมเร่ร่อนของชาวมองโกเลียใน ทักหาแพนด้า ฮอลิเดย์ได้เลยค่ะ
หรือ คลิ๊กชมโปรแกรมเที่ยวมองโกเลียในเพิ่มเติมด้านล่างได้เลยนะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : @pandaholiday หรือคลิ๊กรับชมคลิปวิดิโอโปรแกรมอื่นๆ ได้ที่ Youtube ด้านล่างเลยค่ะ

สอบถามโปรแกรมท่องเที่ยว รับจัดกรุ๊ปส่วนตัว กรุ๊ปวีไอพี
Hotline : 086-317-1624 Office : 02-157-0999
Facebook : Panda Holiday - แพนด้า ฮอลิเดย์
Line : @pandaholiday
Email : salespandaholiday@gmail.com
รับชมโปรแกรมทัวร์อื่นๆอีกมากมายที่ YOUTUBE : Panda Holiday - แพนด้า ฮอลิเดย์