10 วัตถุมงคลของจีน ที่นิยมบูชาในบ้าน ตามความเลื่อมใสของจีน
10 สิ่งศักดิ์สิทธ์ และ วัตถุบูชาในบ้าน ตามความเลื่อมใสของจีน
1. น้ำเต้า (Calabash Gourd หรือ Wu Lou, Hu Lu)
เป็นอีกหนึ่งของมงคล ตามวัฒนธรรมจีน ที่มีมาตั้งแต่โบราณ บ้างก็เชื่อว่าเป็นภาชนะบรรจุน้ำทิพย์ บ้างก็เชื่อว่าเป็นภาชนะ เก็บยาสมุนไพร ฉะนั้นจึงทำให้มีความศรัทธา สืบต่อกันมาว่า น้ำเต้าช่วยรักษาสุขภาพ และ บรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ ยิ่งไปกว่านั้นทางหลักฮวงจุ้ยยังเชื่ออีกว่า น้ำเต้าสามารถดูดพลังงานที่ดีเข้าไปเก็บกักไว้ จนทำให้คนในบ้านมีความสุข รวมถึงสามารถดูดพลังงานที่ไม่ดีเข้าไป จนช่วยให้คนในบ้านปลอดภัยจากอันตรายได้เช่นกัน
หลักการตั้ง : ให้แขวนน้ำเต้าไว้บริเวณหน้าบ้าน หรือไม่ก็บริเวณกำแพงบ้านฝั่งที่ติดกับวัด สุสาน หรือโรงพยาบาล นอกจากนี้หลายคนยังนิยมนำน้ำเต้าไปแขวนไว้ในห้องนอนคนป่วยเพื่อช่วยให้อาการบาดเจ็บทุเลาลง รวมถึงยังนิยมแขวนไว้ที่หัวเตียงของคู่สามี-ภรรยาที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน ก็จะช่วยสานความสัมพันธ์ให้หวานชื่นขึ้นด้วย
2. ฮก ลก ซิ่ว (Fu Lu Shou หรือ Fuk Luk Sau)
เป็นเทพเจ้าจีน 3 องค์ ซึ่งอิงมาจากตำนานที่เล่าขานถึงบุคคลในอดีตของจีน และ นับถือกันต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดย ฮก ลก ซิ่ว เป็นวัตถุมงคลที่สื่อถึงความสำเร็จ ความมั่งคั่ง และอายุยืน ว่ากันว่าถ้าหากใครบูชาไว้ จะช่วยให้เจริญรุ่งเรือง มีความสุข และ สุขภาพดี ซึ่งเทพทั้งสามองค์จะถือเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ดังนั้นจึงต้องบูชาให้ครบ ห้ามเลือกบูชาแค่องค์ใดองค์หนึ่ง
หลักการตั้ง : วางทั้ง 3 องค์เรียงข้างกัน เริ่มด้วยซิ่วอยู่ทางซ้าย ลกอยู่ตรงกลาง และฮกอยู่ทางขวา เนื่องจากสมัยก่อน ตัวอักษรจีนเขียนจากขวาไปซ้ายนั่นเอง อย่างไรก็ตามทุกวันนี้จีนเปลี่ยนมาอ่านจากซ้ายไปขวาแล้ว ก็อาจจะวางเรียงสลับตามแบบสมัยใหม่ได้ ส่วนตำแหน่งที่เหมาะจะตั้ง ฮก ลก ซิ่ว คือ บริเวณทิศตะวันออกของห้องนั่งเล่นหรือห้องกินข้าว โดยให้วางสูงเหนือจากพื้นประมาณ 5 ฟุต และหันหน้าเข้าในบ้าน ห้ามหันออกประตูหรือหน้าต่าง และห้ามหันไปหน้าห้องน้ำหรือจุดอัปมงคล เช่น มุมที่มีกองขยะ
3. ปี่เซียะ (Pi Xiu หรือ Pi Yao)
เป็นสัตว์มงคล และ วัตถุมงคล ยอดนิยมของคนจีน มีลักษณะคล้ายสัตว์ 5 ชนิดรวมกัน ได้แก่ สิงโต มังกร กวาง แมว และนก โดยมีเรื่องเล่าว่า ปี่เซียะทำผิดกฎสวรรค์ จึงถูกลงโทษให้กินแต่ เงิน และ ทอง พร้อมทั้งปิดรูทวารไม่ให้ถ่ายออก จึงทำให้ปี่เซียะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ร่ำรวย เนื่องจากผู้คนเชื่อกันว่าเป็นการ "ดูดทรัพย์เข้า กักทรัพย์ออก" หากบูชาไว้จะช่วยให้เงินทองไหลมาเทมา เก็บทรัพย์สมบัติไม่ให้รั่วไหล ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง และดึงดูดโชคลาภเข้ามาในชีวิตนั่นเอง
หลักการตั้ง : ตำแหน่งการวางปี่เซียะควรตั้งให้เห็นชัด ไม่อยู่ต่ำเกินไป ไม่อยู่สูงกว่าพระ และไม่อยู่รวมกับของมงคลอื่น ซึ่งเราสามารถตั้งได้ทั้งบนตู้เซฟ โต๊ะทำงาน ห้องรับแขก และใกล้ประตูบ้าน โดยให้หันหน้าเข้าหาประตู ที่สำคัญควรตั้งคู่กัน ให้ตัวเมียอยู่ด้านขวา (ตัวที่ก้าวเท้าขวาไปข้างหน้า) ตัวผู้อยู่ด้านซ้าย (ตัวที่ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า) และมีน้ำเปล่าวางไว้ 1 แก้ว ส่วนทิศที่เหมาะสมที่สุด คือ ทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
4. ตี่จู่เอี้ย
แปลว่า เทพเจ้าแห่งธาตุดิน เป็นเทพเจ้าประจำบ้าน ที่คนจีนเคารพนับถือเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าเป็นเทพเจ้า ที่อยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด โดยประวัติความเป็นมาของตี่จู่เอี้ยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ชาวจีนเริ่มหาที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ จึงต้องการให้เทพเจ้าช่วยปกป้องคุ้มครอง เลยนำกระดาษมาเขียนตัวอักษรว่า "ตีจู่ซิ่งอุ่ย" ซึ่งหมายถึง ที่สถิตของเทพเจ้า และก็มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ ตามยุคสมัย จนกลายเป็นศาลตี่จู่เอี้ยอย่างทุกวันนี้นั่นเอง โดยว่ากันว่า ถ้าหากบ้านไหนมีศาลตี่จู่เอี้ยบูชาไว้ ก็เหมือนมีเทพเจ้าคอยดูแล คุ้มครอง ทำให้มีแต่ความสุข และช่วยเสริมโชคลาภและสิริมงคลในชีวิต
หลักการตั้ง : ตำแหน่งการตั้งศาลตี่จู่เอี้ยควรวางให้ติดดิน ด้านหลังไม่ควรอยู่ใกล้ประตู บันได ห้องน้ำ ห้องครัว ด้านหน้าควรโล่ง กว้าง และสว่าง ด้านบนไม่ควรมีคานหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น และด้านล่างควรเป็นพื้นธรรมดา ไม่มีฐานรอง
5. ไฉ่ซิงเอี้ย (Cai Shen)
เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ตามความศรัทธาของคนจีน โดยมีความเชื่อว่า องค์เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะมายังโลกมนุษย์ เพียงปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งนั่นก็คือ วันตรุษจีน จึงทำให้คนส่วนใหญ่จะตั้งโต๊ะหมู่บูชาองค์ไฉ่ซิงเอี้ยเป็นองค์แรก ของวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่าจะนำ ความมั่งมีศรีสุข โชคลาภเงินทอง ความสุขสมหวัง และ ความร่ำรวยมาสู่ผู้คนในบ้านนั่นเอง
หลักการตั้ง : ทิศในการตั้งโต๊ะบูชา ของแต่ละปี ก็จะแตกต่างกันออกไป สำหรับการบูชาในบ้าน ให้ตั้งองค์เทพหันหลัง ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับพลังดีตามหลักฮวงจุ้ย หรือ จะวางไว้บนโต๊ะทำงาน หรือ ตู้เซฟก็ได้ แต่ระวังอย่าวางไว้ต่ำเกินไป และ ต้องไม่วางสูงกว่าพระพุทธรูปด้วย
6.มังกร (Dragon)
เป็นสัตว์ในตำนานตามหลักความเชื่อของจีน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสัตว์เทพทั้งสี่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ (มังกรเขียว หงส์แดง เสือขาว และเต่าดำ) และเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิจีนด้วย โดยว่ากันว่าถ้าหากใครมีมังกรอยู่ที่บ้าน จะช่วยเสริมเรื่องความมั่งคั่ง พลังอำนาจ และความโชคดีได้ เนื่องจากมังกรสื่อถึงคนที่ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ร่ำรวย และแข็งแกร่งนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังว่ากันว่า มังกรสามารถเสริมพลังชี่ให้กับตัวบ้านได้อีกต่างหาก
หลักการตั้ง : ตามหลักฮวงจุ้ย มังกร ควรตั้งประดับไว้ทางทิศตะวันออกหรือทางด้านซ้ายของบ้าน (หากมองออกมาจากด้านใน) หรือบริเวณที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว และห้องทำงาน ห้ามวางไว้ในบริเวณที่มีพลังงานต่ำ เช่น ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว หรือโรงจอดรถเด็ดขาด และเนื่องจากมังกรเป็นสัตว์ที่ชอบน้ำมาก ดังนั้นถ้าหากบ้านของใครมีแหล่งน้ำหรือรูปภาพน้ำ ก็สามารถวางมังกรให้หันหน้าเข้าหาน้ำได้
7. กิเลน (Qi Lin หรือ Chi Lin)
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ม้ามังกร หรือ ยูนิคอร์นจีน เป็นสัตว์มงคล นำโชคในตำนาน มีหัวเป็นมังกร ตัวเป็นม้า กีบเป็นกวาง และ ผิวเป็นเกล็ดปลา ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อกันว่า กิเลนสามารถดูดซับพลังงานดี แบ่งแยกความดีและความชั่ว แถมยังซื่อสัตย์กับเจ้าของด้วย จึงถือเป็นวัตถุมงคล ที่ช่วยคุ้มครอง คนในบ้านจากความชั่วร้าย ช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรือง และช่วยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงได้ นอกจากนี้กิเลนหลายตัวยังมีสมบัติอยู่ที่อุ้มเท้า และ เหรียญอยู่ที่ปาก จึงเชื่อกันว่าช่วยนำความมั่งคั่ง ร่ำรวยมาสู่ผู้คนในบ้านได้อีกต่างหาก
หลักการตั้ง : ตำแหน่งการวางกิเลนที่เหมาะสมคือบริเวณห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น หรือใกล้ประตูบ้าน โดยให้หันหน้าเข้าหาบริเวณที่มีคนอยู่เป็นประจำ และอย่าวางไว้ในห้องนอน ห้องครัว หรือห้องน้ำเด็ดขาด
8.สิงห์คู่ หรือ สิงโตคู่ (Fu Dogs)
เป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ ตามความเชื่อของชาวจีน มีประวัติความเป็นมา ยาวนานตั้งแต่ สมัยโบราณ โดยว่ากันว่า ผู้ที่มีอำนาจ และ เงินทองจะวางสิงห์คู่ ประดับไว้หน้าประตูทางเข้า เพื่อช่วยปกปักรักษา ทรัพย์สิน และ คนในบ้าน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกวันนี้เราถึงเห็นสิงห์คู่เฉพาะในวัด สำนักงานรัฐ และบ้านของตระกูลใหญ่เท่านั้น โดยลักษณะของสิงห์คู่ที่ดีควรมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย เพราะตัวผู้จะเหยียบโลกไว้ใต้อุ้งเท้าขวา เปรียบเสมือนการป้องกันบ้านและอาณาจักร ส่วนตัวเมียจะเหยียบลูกไว้ใต้อุ้งเท้าซ้าย เปรียบเสมือนการป้องกันจากสัญชาตญาณแม่
หลักการตั้ง : ส่วนบริเวณที่เหมาะ จะวางสิงห์คู่มากที่สุด คือ บริเวณหน้าประตูบ้าน โดยให้ตัวเมียอยู่ทางซ้าย ตัวผู้อยู่ทางขวา (มองจากข้างนอกเข้าไปข้างใน) เพื่อให้สิงห์คู่ช่วยปกป้องและคุ้มครองคนในบ้านให้ปลอดภัย และเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจกับคนที่ผ่านเข้า-ออกบ้าน
9.เรือสำเภาจีน (Wealth Ship)
ถือเป็นของมงคลศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน และ คู่ออฟฟิศของคนจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักธุรกิจ เนื่องจากสมัยก่อน ผู้คนนิยมใช้เรือสำเภาในการค้าขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการค้าขายกับต่างประเทศ ทำให้เวลาเรือแล่นกลับบ้าน ก็จะขนเงินทองหรือสินค้ามาเต็มเรือ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ร่ำรวยนั่นเอง ดังนั้นจึงมีความเชื่อส่งต่อกันมาว่า ถ้าหากบ้านไหนประดับเรือสำเภาจีนไว้ ก็ช่วยนำโชคลาภทางการเงินเข้ามาสู่ผู้คนในบ้าน
หลักการตั้ง : เรือสำเภาสามารถตั้งประดับได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เหมาะกับทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศของธาตุไม้ และเรือทำมาจากไม้ ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องวางหัวเรือหันเข้ามาข้างในบ้าน ซึ่งจะหมายถึงการรับเข้า ถ้าหากวางหันออกจะเหมาะกับออฟฟิศ ซึ่งหมายถึงการเจรจาธุรกิจ นอกจากนี้ก็อย่าลืมใส่เหรียญเงิน เหรียญทองเข้าไปเป็นการเสริมมงคลด้วย
10.เซียมซู หรือ คางคกสามขาคาบเหรียญ (Three-Legged Toad)
เป็นสิ่งของมงคลศักดิ์สิทธิ์ ที่ช่วยเสริมเรื่องความมั่งคั่ง ร่ำรวย มีประวัติเล่าขานกันมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณว่า เป็นสัตว์เลี้ยงข้างกายของ หลิวไห่ฉาน หรือ หลิวไห่ (Liu Hai) เซียนผู้ประทานเงินทองสุดโด่งดังแห่งลัทธิเต๋า ฉะนั้นผู้คนจึงเชื่อว่า ถ้าหากใครบูชาเซียมซูติดบ้านไว้ จะช่วยนำเงินทอง และ รายได้เข้ามาสู่ผู้คนในบ้าน
หลักการตั้ง : เซียมซูควรวางประดับไว้บริเวณหน้าประตูบ้าน หรือ ตรงข้ามประตูบ้านแบบทแยงมุม เพื่อช่วยดึงดูดโชคลาภจากภายนอกเข้ามาสู่ภายใน และ ควรตั้งให้หันหน้าเข้ามาข้างในบ้าน (บางตำราบอกว่าสามารถหันออกข้างนอกบ้านได้) อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการวางตรงข้ามกับประตูพอดีเป๊ะ เพราะจะทำให้พลังชี่หน้าบ้านแข็งแรงมากเกินไป รวมถึงห้ามวางบนพื้นเด็ดขาดด้วย