หวงซาน (Huangshan)
เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีนในสมัยราชวงศ์จิ๋น เทือกเขาหวงมีชื่อเรียกว่า
“ยี่ซาน” ชื่อในปัจจุบันได้รับการตั้งขึ้นใหม่ มีชื่อเสียงมาจากทิวทัศน์ที่งดงามของยอดเขาหินแกรนิต ต้นสนหวงรูปร่างแปลกตา และภาพของหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ใกล้ยอดเขา บริเวณเทือกเขานี้ยังมีน้ำพุร้อนและบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอีกมากมาย เนื่องมาจากความงดงามจึงมักจะปรากฏภาพของเทือกเขาหวงอยู่ในภาพเขียนจีน หรือปรากฏชื่อในวรรณกรรมอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันนี้องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเทือกเขาหวงเป็นมรดกโลก และยังจัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในจีน
ยอดเขาที่สูงที่สุด
3 อันดับแรกในเทือกเขาคือ
“ยอดเขาเหลียนหัว” ภาษาจีนเรียกว่า
“เหลียนหัวเฟิง” ยอดเขาดอกบัว มีความสูง 1,864 เมตร
“ยอดเขากวงหมิง หรือยอดเขาสว่าง” มีความสูง 1,840 เมตร และ
“ยอดเขาเทียนตู่” ภาษาจีนเรียกว่า
“เทียนตู่เฟิง” แปลว่า ยอดเขาเมืองหลวงแห่งสวรรค์ มีความสูง 1,829 เมตร เขตที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประกอบด้วยบริเวณเทือกเขาซึ่งมีพื้นที่ 154 ตารางกิโลเมตร และรอบๆ เทือกเขาอีก 142 ตารางกิโลเมตร เขาหวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน
พ.ศ. 2533 เนื่องมาจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่หายากและถูกคุกคามหลายชนิด เมื่อเปรียบเทียบกับภูเขาที่มีชื่อเสียงลูกอื่น ๆ แล้ว เอกลักษณ์ของหวงซานคือ มีต้นสนแปลกพิสดารกระจัดกระจายอยู่ตามยอดเขาต่าง ๆ ฝังรากไว้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางก้อนหินใหญ่
ยอดเขายู่ว์ผิงนับเป็นจุดเด่นที่สุดสำหรับชมความงามของสนแห่งภูเขาหวงซาน ยอดเขาลูกนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1,716 เมตร บนหน้าผามีต้นสน 3 ต้นที่มีชื่อเสียงมีชื่อเรียกว่า
สนรับแขก สนรอแขก และ
สนส่งแขก
“สนรับแขก” นับเป็นต้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูเขาหวงซาน ถึงขนาดที่ผู้มาเที่ยวทุกคนต้องมารอคิวกันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก กล่าวกันว่าถ้าไม่เห็นสนต้นนี้ก็เหมือนกับมาไม่ถึงภูเขาหวงซานเลย
“สนรับแขก” ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของยอดยู่ว์ผิง มีอายุอย่างน้อย 800 ปี มีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับว่า ลำต้นกำลังผายกิ่งก้านเขียวชะอุ่ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งมาถึงอย่างอบอุ่น ปัจจุบัน
“สนรับแขก” ได้กลายเป็นตัวแทนของต้นสนประหลาดแห่งหวงซานจนกระทั่งเป็นสัญลักษณ์ของภูเขาหวงซานไปแล้ว ส่วน “สนรอแขก” ยืนต้นอยู่ด้านหน้ายอดเขายู่ว์ผิง เสมือนหนึ่งมนุษย์ตัวใหญ่คอยดูแลนักท่องเที่ยวที่มาชมความงามของภูเขาหวงซาน ส่วน
“สนส่งแขก” มีรูปลักษณ์คล้ายบอนไซในกระถาง มีกิ่งก้านและใบปกคลุมแน่นหนาทั้งต้น และมีกิ่งก้านยาว ๆ ชี้ไปที่ทางลงภูเขา ดูเหมือนกำลังอำลานักท่องเที่ยวอย่างอาลัยอาวรณ์
นอกจากจะประดับไปด้วยสนประหลาดแล้วหวงซานยังมีของแปลกอีกอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า
“หินพิสดาร” อย่างเช่น หินบิน เป็นหินทรงรี สูง 12 เมตร หนัก 554 ตัน ตั้งตระหง่านอยู่บนหวงซาน ส่วนล่างของหินไม่เชื่อมติดกับภูเขา ทำให้คล้ายกับว่าเป็นหินที่ตกลงมาจากท้องฟ้า นอกจากหินบินแล้วยังมีหินและยอดเขาหินรูปทรงอื่นๆ จนถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเช่น หินเต่าในตำนาน หินลิงชมทะเล หินเซียนบอกทาง หินหนูกระโดดลงหุบ หิวแมวคู่จับหนู หินเซียนประลองหมากรุก ฯลฯ และนอกจากนี้ยังมี
ยอดเขาขนปุย (Fur Peak) โดยชื่อของยอดเขามีที่มาจากขนอ่อนที่ปกคลุมใบชาเป็นปุย ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องชาจีนมากที่สุด
วัฒนธรรมความเชื่อทางศาสนา
เขาหวงซานกับความเชื่อทางศาสนามีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างแนบแน่น จากบันทึกในสมัยราชวงศ์ถัง ที่กล่าวถึงตำนานในศาสนาเต๋า เกี่ยวกับการขึ้นเขามากลั่นยาอายุวัฒนะ หรือการบำเพ็ญพรตเพื่อเป็นเซียนของกษัตริย์เหลือง รวมไปถึงนักพรตเต๋าอีกหลายท่าน ตำนานหลายเรื่องได้กลายถึงที่มาของชื่อยอดเขาต่าง ๆ บนเขาหวงซานในปัจจุบัน อารามเต๋าเก่าแก่ที่อยู่บนเขาหวงซัน คือ อารามฝูชิว , อารามจิ่วหลง เป็นต้น ในปลายสมัยราชวงศ์ซ่ง นักพรตจางอิ่นขึ้นเขาหวงซันมาบำเพ็ญพรต
ด้านศาสนาพุทธนั้น เข้ามาสู่ดินแดนเขาหวงซานเมื่อสมัยราชวงศ์ใต้ (ราชวงศ์ใต้ราชวงศ์เหนือ ค.ศ.420-589) มีการสร้างวัดพุทธถึง 100 กว่าแห่ง โดยในจำนวนนี้มี
วัดเสียงฝู , วัดฉือกวง , วัดชุ่ยเวย และ
วิหารจื้อปอฉาน เป็นวัดและวิหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง
สภาพภูมิอากาศ
อากาศบนยอดเขาเย็นจนถึงหนาวจัด ช่วงเดือนมกราคมจะเป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำสุด ควรเตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม
ช่วงฤดูร้อนอากาศเย็นสบาย ช่วงฤดูฝนประมานเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม ควรติดเสื้อกันฝนไปด้วย หากมีฝนตกอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก เดือนกรกฎาคม จะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 20-25 องศาเซลเซียส
แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
เขาจิ่วหัวซาน อยู่ในเขตฉือโจว มณฑลอันฮุย มีทัศนียภาพสวยงามและแฝงด้วยความลี้ลับได้ชื่อว่าเป็น
“เมืองพุทธดอกบัว” ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา จากทั่วทุกมุมของโลกให้มาเยือน เมื่อ 1,300 ปีที่แล้ว ไต้ซือจินเฉี่ยวเจ๋ จากประเทศกู่ซินหลัว เดินทางมาที่นี่เพื่อปฏิบัติธรรมและเผยแผ่ศาสนาพุทธ ท่านมรณภาพเมื่ออายุ 99 ปี แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย จากนั้นมาภูเขาจิ่วหัวซาน ได้กลายเป็นแหล่งปฏิบัติธรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ จิ่วหัวซานมีวัดถึง 99 แห่ง และพระพุทธรูปหยกเต็มองค์หนัก 44 ตัน ซึ่งใหญ่ที่สุดของจีน ทุกวันจึงมีศาสนิกชน มาไหว้พระไม่ขาดสาย และทุกวันที่ 30 เดือน 7 จันทรคติจีน จะจัดงานยิ่งใหญ่ทุกปี เพื่อรำลึกถึง ไต้ซือจินเฉี่ยวเจ๋ และสิ่งที่เป็นปริศนายังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ คือ พระที่มรณภาพแล้วถึง 15 องค์ มีสังขารไม่เน่าเปื่อย
เสน่ห์ของจิ่วหัวซาน คือวิวทิวทัศน์ที่มียอดเขาสลับซับซ้อน มีหินลักษณะแปลก น้ำตก สวย และในฤดูหนาวได้เห็นทะเลหมอก และน้ำค้างแข็งที่งดงาม ส่วนมุมที่พลาดไม่ได้ คือ ภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายพระนอน เป็นเสน่ห์ของเขตท่องเที่ยว
ฮัวถาย เรียกได้ว่ามาที่จิ่วหัวซานที่เดียว นอกจากจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้ทำบุญไหว้พระในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้พุทธศาสนิกชนใฝ่ฝันจะเดินทางมาแสวงบุญบนภูเขาจิ่วหัวซานแห่งนี้
- เมืองมรดกโลก หมู่บ้านซีตี้ (Xidi) หมู่บ้านซีตี้ ถูกสร้างในยุคราชวงศ์หมิงและชิง อายุเก่าแก่ราว 200 ปี ปัจจุบันยังมีบ้านแบบเดิมหลงเหลืออยู่ประมาณ 300 หลัง และอยู่ในสภาพสมบูรณ์จำนวน 14 หลัง ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบฮุยโจว ใช้อิฐ ไม้ ก้อนหินในการสร้างบ้าน ได้รับการบรรจุไว้เป็นมรดกโลกร่วมกับหมู่บ้านหงชุน เมื่อปี 2000
- เมืองมรดกโลก หมู่บ้านหงชุน (Hongcun Village) บ้านเรือนเก่าแก่ประมาณ 150 หลัง ก่อสร้างมาตั้งแต่ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามริมทะเลสาบรูปเสี้ยวพระจันทร์ในหมู่บ้านหงชุนไปพร้อมๆ กับจิตรกรทั่วสารทิศในจีนที่หลงไหลการวาดภาพสีน้ำนอกจากนี้ ความงดงามของหงชุนยังถูกบรรจุไว้ในฉากภาพยนตร์เรื่อง
“พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (Crouching Tiger , Hidden Dragon)” อีกด้วย
- เมืองโบราณฮุ่ยโจว (Huizhou) ตั้งอยู่ใน
อำเภอเซ่อเสี้ยน (Shexian County) ถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำและภูเขา ภายในเขตเมืองเก่า นักท่องเที่ยวจะพบกับสะพานโบราณ อาคาร ถนนและตรอกเล็กตรอกน้อย และซุ้มประตูเมือง
- ซุ้มประตูตระกูลเปา หมู่บ้านถังเยว่ (Tangyue Paifangqun Baojia Garden Scenic Area) เป็นเมืองเก่าแก่อายุ 800 กว่าปี อยู่ห่างจากเมืองโบราณฮุ่ยโจวไป 10 กิโลเมตร มีซุ้มประตูหินเก่าแก่ตั้งเรียงรายทั้งหมด 7 ซุ้มประตู ไว้เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษตระกูลเปาในแต่ละยุค มีซุ้มประตูที่สร้างในยุคราชวงศ์หมิง 3 ซุ้ม และราชวงศ์ชิงอีก 4 ซุ้ม ซุ้มประตูที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุเกือบ 600 ปี
- หมู่บ้านถังหม่อ (Tangmo Scenic Spot) ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในราชวงศ์ถัง หรือพันกว่าปีที่แล้ว หมู่บ้านแห่งนี้มีคูและฝายน้ำอยู่โดยรอบ และมีสวนจีนริมทะเลสาบที่สวยงาม
- หมู่บ้านโบราณเฉิงข่าน (Chengkan) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเขาหวงซาน 40 กิโลเมตร หมู่บ้านเก่าแก่เกือบ 2,000 ปี ก่อสร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น มีถนนสายหลักทั้งหมด 3 สาย และตรอกรวมกัน 99 ตรอก ซึ่งเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี จนได้รับการยกย่องให้เป็น
“พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของจีน”
- บ้านเฉียนโข่ว (Qiankou Ancient Residential Houses) มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวน 24 หลัง สร้างในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี