ไปเที่ยวกัน เที่ยวทิเบต ใครบอกน่าเบื่อ!!
ไปเที่ยวกัน เที่ยวทิเบต ใครบอกน่าเบื่อ!!
ไปเที่ยวกัน เที่ยวทิเบต ใครบอกน่าเบื่อ!!
ทิเบต (TIBET) หรือถู่ปอ (ในภาษาโบราณ) ภาษาจีนเรียกว่า “ซีจ้าง” ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปเอเชียระหว่างประเทศจีนกับอินเดีย เป็นเขตปกครองตนเองพิเศษของประเทศจีน ทิเบตตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
เป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดในโลก หรือเปรียบได้กับเป็นหลังคาโลก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 1.2 ล้านตารางกิโลเมตร (ซึ่งใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 2 เท่า) มีภูเขาและที่ราบสูงที่สุดในโลก จนได้รับฉายาว่า “หลังคาโลก”
ทิเบตมีอากาศที่หนาวเย็นมาก และมีความกดอากาศและอ๊อกซิเจนที่ต่ำ ฉะนั้นผู้ที่จะมาเที่ยวในทิเบต จะต้องปรับสภาพร่างกายก่อน
ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7 กษัตริย์ซงจั้นกันปู้ วีรบุรุษของชนชาติทิเบต ได้สถาปนาราชวงค์ถู่ปอขึ้นอย่างเป็นทางการและตั้งเมืองหลวงที่นครลาซา ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 สมัยกุบไลข่าน ราชวงศ์หยวนของชาวมองโกล
ที่ปกครองจีน ทิเบตได้รวมเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนเป็นต้นมา ค.ศ. 1644 (พ.ศ 2187) ในยุคของราชวงศ์ชิง ทิเบตก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของจีน จวบจนท่านประธานเหมาได้สถาปนาประเทศจีนใหม่ขึ้นมา
และได้บัญชาการให้ทหารแดงบุกเข้าทิเบตและก่อตั้ง เขตปกครองพิเศษขึ้นในปี พ.ศ 2501 ปัจจุบัน ผู้นำของชาวทิเบตคือ “องค์ทะไลลามะที่ 14 เทนซิน เกียตโซ” พระองค์ทรงเป็นประมุขแห่งพุทธศาสนานิกายมหายานแบบทิเบตเกลุกปะหมวกเหลือง
เดือนมีนาคม พ.ศ.2502 เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทิเบตที่กรุงลาซา เมืองหลวง ผู้ประท้วงชาวทิเบตจำนวนมากถูกกองทหารจีนจับกุมและสังหาร องค์ทะไลลามะต้องทรงเดินทางลี้ภัยไปอินเดีย
โดยมีชาวทิเบตประมาณ 80,000 คน ติดตามพระองค์ไป และนับตั้งแต่ พ.ศ.2502 เป็นต้นมา พระองค์ประทับอยู่ที่เมืองธรรมศาลารัฐหิมาจัลประเทศ ตอนเหนือของอินเดีย
ทิเบต มีเมืองหลวงชื่อ “เมืองลาซา” ตั้งอยู่ตอนกลางของที่ราบสูงทิเบตทางเหนือของเทือกเขาหิมาลัย มีประชากรทั้งหมด 500,000 คน เมืองที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,650 เมตร
เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนิกชนที่นับถือพุทธศาสนานิกายทิเบต ในเมืองประกอบไปด้วยหลายวัฒนธรรมที่สำคัญ
โดยเฉพาะศาสนสถานของศาสนาพุทธ-ทิเบต วัดที่มีชื่อเสียงของทิเบต คือ วัดโจคัง , วัดเซร่า , วัดถาเอ่อร์ (ชาวทิเบตเรียก คุมบุม)
พระราชวังโปตาลา (Potala Palace)
ตั้งอยู่บนยอดเขาแดง บนความสูงประมาณ 300 เมตร สร้างขึ้นมาในคริสตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ ซงจ้าน กัมโป ซึ่งนับว่าเป็นศิลปะสุดยอดฝีมือ ที่สวยงามที่สุดของทิเบต
พระราชวังโปตาลา เป็นอาคารสูง 13 ชั้น มีห้องต่าง ๆ เกือบ 1,000 ห้อง พระราชวังโปตาลา แบ่งเป็น 3 ส่วน คือส่วนของพระราชวังสีขาว , สีแดง และส่วนเชื่อมที่เป็นสีเหลือง พระราชวังสีขาวเป็นส่วนของสังฆาวาส
พระราชวังสีแดงเป็นส่วนพุทธาวาสสำหรับใช้ทำกิจของสงฆ์ และบรรจุพระศพของ องค์ดาไลลามะ และมีห้องสมุดที่ใช้สำหรับเก็บพระไตรปิฎก พระราชวังโปตาลาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักมีท่องเที่ยวเดินทางมามากที่สุดของทิเบต
วัดโจคัง (Jokhang Temple)
หรือชาวจีนเรียกว่า “ต้าเจ้าซื่อ” เป็นวัดที่ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบตและเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเขตปกครองตนเองทิเบต วัดโจคังนี้มีจุดเด่นในการนำเอาศิลปะ ของ 4 ชาติมาผสมกัน
คือ ทิเบต จีน เนปาลและแคชเมียร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปตอนพระพุทธเจ้า 12 ขวบ ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระพุทธองค์และพระองค์ท่านได้ทำการปลุกเสกเบิกเนตรโดยตัวท่านเองโดยเจ้าหญิง เหวินเฉิง
นำมาจากราชวงศ์ถัง เมื่อ 1,300 ปีก่อน ซึ่งได้รับการกราบไหว้และยอมรับกันอย่างมากว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
วัดเซรา (Sera Monastery)
หรือชาวจีนเรียกว่า “เซ่อลาซื่อ” ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของกรุงลาซา เป็นโรงเรียนสอนลามะแห่งทิเบต สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1419 โดยพระนิกายหมวกเหลืองได้ถูกทำลายในปี ค.ศ. 1906
และได้ทำบูรณะใหม่ขึ้นใหม่อีกครั้งในภายหลัง วัดเซราตั้งอยู่ห่างจากเมืองลาซาไปทางทิศเหนือ 2 ไมล์ อารามเซราจัดเป็นวัดที่ใหญ่อันดับ 2 รองจากวัดเดรปุง มีพระอยู่ประจำมากกว่า 6,000 รูป และมีวิทยาลัยใหญ่ 3 แห่ง
ตั้งอยู่ในวัด นอกจากนี้อารามเซรายังเป็นที่เก็บสมบัติทางพุทธศาสนา ปัจจุบันวัดนี้ถือได้ว่าเป็นที่ๆ ผู้ปกครองจะนำพาเด็กๆ มาให้พระลามะทำพิธีเจิมจมูก (ป้ายแต้มสีดำที่จมูก) เพื่อให้เด็กๆ ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์
ทางรถไฟสายชิงไห่ – ทิเบต
ภาษาจีนเรียกว่า ชิงจ้างเถื่ยลู่ มีสถานีรถไฟสูงที่สุดในโลกคือถังกู่ลา-ซาน จุดสูงสุดที่ทางรถไฟสายนี้ สูงจากระดับน้ำทะเล 5,072 เมตร เป็นเส้นทางรถไฟบนที่ราบที่ยาวที่สุดในโลก
โดยมีความยาวถึง 1,142 กิโลเมตร และอุโมงค์ที่ภูเขาคุนหลุน(คุนหลุนซานซุ่ยเต้า) เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุด หน้าหนาวอุณหภูมิต่ำสุดถึง -30องศาเซลเซียส ปริมาณออกซิเจนลดถง 40% ทางรถไฟแห่งนี้อุดมด้วยสัตว์ป่านานาชนิด
เช่น จามรีป่า จิ้งจอกหิมะและละมั่งทิเบตสัตว์คุ้มครองประเภทหนึ่ง วิศวกรรถไฟจีนจึงสร้างทางรถไฟยกระดับกหรือสะพานรถไฟ เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ป่า
โดยทำช่องใต้สะพานไว้ให้สัตว์ลอดไปมาได้อย่างอิสระ และยังแก้ปัญหาการวางรางบนดินน้ำแข็งอีกด้วย ทางรถไฟสายชิงไห่- ทิเบต เริ่มต้นเดินทางจากเมืองซีหนิง เมืองเอกของมณฑลชิงไห่ ถึงปลายทางเมืองลาซาโดยปกติรถไฟสายนี้จะมีตั๋ว 3 แบบ คือ
Hard Seat จะเป็นตั๋วนั่งราคาถูกที่สุด เหมาะกับการเดินทางช่วงสั้น ๆ
Hard Sleeper จะกั้นเป็นล็อคๆ หนึ่งล็อคมี 6 เตียง ด้านละ 3 เตียง ไม่มี Personal TV
Soft Sleeper ในหนึ่งตู้จะมี 8 ห้อง หนึ่งห้องมี 4 เตียง แต่ละเตียงจะมี Personal TV
ซึ่งจะมีราคาสูง สิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟ มีตู้เสบียง ห้องอาหาร จัดให้สำหรับผู้โดยสาร ภายในตู้รถไฟ มีการปรับความดันอากาศและมีออกซิเจนไว้ให้ทุกเตียงนอน มีน้ำร้อนและเหยือกสำหรับใส่น้ำร้อน ไว้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีห้องน้ำสำหรับชำระร่างกาย และอ่างล้างหน้า แปรงฟันมีปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตเตอร์รี่
ทะเลสาบนามูโช่
ในภาษาทิเบตนั้นหมายถึง “ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์” พื้นที่มากกว่า30ตาราง กิโลเมตร ถูกปกคลุมไปด้วยเกลือ ซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,900 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่ากรุงเทพซึ่งมีพื้นที่เพียง1500ต.ร.ก.ม)
ทะเลสาบเกลือแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประเทศจีน มีระดับความสูงถึง 4,718 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่สุดในโลก น้ำของทะเลสาบที่นี่สะอาดและมีความใสมาก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 เมื่อปี
แกะของชาวทิเบตมาถึงเหล่าชาวพุทธก็จะทำพิธีกรรม โดยเดินไปรอบๆ ริมทะเลสาบ มีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าคนใดได้มาทำพิธีกรรมเพียงครั้งเดียวในปีมะเมีย เขาจะมีความสุขอย่างมากไปตลอดปี
ดังนั้นในแต่ละปีจะมีชาวทิเบต พระสงฆ์หรือชาวพุทธหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก กิจกรรมนี้จะดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือน จนถึงวันที่ 15 เมษายนในปีมะเมียของทิเบต