clock
logo

LET’S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

May 18, 2022 | by Panda Holiday

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

จอร์เจีย (อังกฤษ: Georgia; จอร์เจีย: საქართველო, อักษรโรมัน: Sakartvelo) เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัส ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก จอร์เจียมีพรมแดนทางทิศตะวันตกติดกับทะเลดำ ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับรัสเซีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับตุรกี ทางทิศใต้ติดกับอาร์เมเนีย และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับอาเซอร์ไบจาน จอร์เจียครอบคลุมพื้นที่กว่า 69,700 ตารางกิโลเมตร (26,900 ตารางไมล์) และมีประชากรราว 3.7 ล้านคน (ไม่นับรวมดินแดนจอร์เจียที่ถูกรัสเซียยึดครอง) จอร์เจียเป็นประเทศประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน ซึ่งปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐรัฐเดี่ยวในระบอบรัฐสภา โดยมีทบิลีซีเป็นเมืองหลวง และยังเป็นที่ตั้งของประชากรจอร์เจียประมาณหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมด (*ข้อมูลประเทศจอร์เจียจากวิกิพีเดีย)

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

1. ทะเลสาบเซวาน (Lake of Sevan)

ทะเลสาบน้ำจืดและทะเลปิดในประเทศอาร์เมเนียและแถบคอเคซัส ทะเลสาบแห่งนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำแม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาสริค

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

2. โบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church )

โบสถ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของ จอร์เจีย ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 2,170 เมตร ภายใต้ยอดเขา Kazbegi อันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัส ใกล้กับหมู่บ้าน Gergeti ในเมือง Stepantsminda (หรือเมือง Kazbegi) เขตมซเคตา-มเตียเนตี (Mtskheta-Mtianeti) ทางตอนเหนือของเมืองทบิลิซี โดยตัวโบสถ์นั้นสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 เป็นคริสตจักรที่ผสมผสานแบบออร์ทอดอกซ์ และ Apostolic Church

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

3. เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ (Uplistsikhe)

เป็นบริเวณถ้ำที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคการเริ่มต้นราวศตวรรษที่ 8-7 ก่อนคริสตกาล ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้านมทวารี และหุบเขารีโอนีไปยังทะเลดำและต่อไปยังด้านตะวันตก ทำให้เกิดการพัฒนาการเป็นเมืองต่างๆหลายเมือง และอัพลิสต์ซิเคห์ก็เป็นเมืองหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางการค้า ให้ท่านได้ชมหมู่บ้านที่ถูกสร้างจากถ้ำโดยมีเนื้อที่กว้างประมาณ 50 ไร่ ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนใต้ ส่วนกลางและส่วนเหนือ ซึ่งส่วนกลางจะมีบริเวณใหญ่ที่สุด ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหินและเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย ถ้ำส่วนมากจะไม่มีการตกแต่งใดๆ ภายในเลย

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

4. อารามถ้ำหิน (Vardzia Vardzia)

อารามถ้ำหินที่อยู่ริมหน้าผาของภูเขา Erusheti ใกล้กับแม่น้ำ Kura ในเมือง Aspindza เขตซัมซเค-จาวาเคตี (Samtskhe-Javakheti) จอร์เจีย สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 ความน่าอัศจรรย์ของที่นี่จะคล้าย ๆ กับ Uplistsikhe ก็คือ มีการขุดเจาะภูเขาให้สามารถอยู่อาศัยด้านในได้ มีทั้งหมด 19 ชั้น แบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อยมากกว่า 400 ห้อง โดยมี Church of the Dormition เป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญ ซึ่งภายในโบสถ์แห่งนี้ก็ยังมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่ด้วย

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

5. เมืองหลวงทบิลิซิ (Tbilisi )

เมืองหลวงที่งดงามของ จอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Mtkvari สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 มีเสน่ห์ด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ซึ่งผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมของยุคกลาง, สถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก, สถาปัตยกรรมโบซาร์, สถาปัตยกรรมสตาลิน และสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในเมืองมีตึกและอาคารสวย ๆ ให้เดินเที่ยวถ่ายรูปแทบจะทุกมุมตึก บรรยากาศไม่แตกต่างจากเมืองสำคัญในยุโรปเลยทีเดียว

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

 6. สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)

เป็นอีกหนึ่งงานสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเมือง Tbilisi ออกแบบโดย สถาปัคนิกชาวอิตาเลื่ยนชื่อ Michele De Lucchi สะพานมีความยาวที่ 150 เมตร ลักษณะการออกแบบร่วมสมัย เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2010 โครงสร้างนั้นถูกออกแบบและสร้างที่อิตาลี และนำเข้ามาโดยรถบรรทุก สามารถมองเห็นได้หลายมุมจากในเมือง และยังมี illuminating ที่จะแสดงแสงสีจากไฟ LED ที่ติดตัวรอบตัวสะพานเป็นเวลา 90 นาทีก่อนที่พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

 7. วิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี ( Holy Trinity Cathedral )

ที่เรียกกันว่า Sameba เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์โธดอกจอร์เจียตั้งอยู่ในทบิลิซีเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และปี 2004 และเป็นวิหารที่สูงที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์ออร์โธดอกในโลก

 8. ป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress)

สร้างครั้งแรกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 มีการเปลี่ยนมือผู้ปกครองหลายต่อหลายครั้ง ทั้งชาวอาหรับ มองโกล เปอร์เซีย เติร์ก และรัสเซีย ในส่วนของอาคารปัจจุบัน สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 ร่วมสัมผัสความงามของ โบสถ์นักบุญนิโคลาส (St. Nicholas Church) ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 หากมองลงมาจะได้สัมผัสความงามของแม่น้ำมิตควารีและความผสมผสานกลมกลืนกันระหว่างผู้คนหลากชนชาติหลายภาษาที่มาอยู่รวมกันในเมืองแห่งนี้

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว…จอร์เจีย

9. อนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ (Ali and Nino Monument) 

งานสถาปัตยกรรมโลหะสมัยใหม่รูปคู่รักชายชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงสาวชาวจอร์เจียนในนวนิยายท้องถิ่น หอคอยชิงช้าสวรรค์ (Ferris Wheels Tower)อาคารตัวอักษร (Alphabet Tower) ที่ประดับด้วยตัวอักษรโลหะอันมีเอกลักษณ์ รวมถึง หอคอยแห่งบาตูมี (Batumi Tower) ที่สูงถึง 200 เมตร สามารถหยุดเก็บภาพได้ตลอดเส้นทาง

LET'S GO TRAVEL ไปเที่ยว...จอร์เจีย

10. อนุสาวรีย์ มารดาแห่งจอร์เจีย (Kartlis Deda, Mother Georgia)

รูปปั้นขนาดใหญ่ยักษ์ของหญิงถือดาบและถ้วย นั่นคือมารดาของจอร์เจียหรือ Kartlis Deda ในจอร์เจีย ที่สร้างขึ้นจากอลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป 20 เมตร (65.6 ฟุต) ซึ่งไม่ใช้แต่จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทบิลีซีเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเช่นกัน โดยดาบที่ถือ มีความหมายเอาไว้ใช้สำหรับผู้ที่จะมาเป็นศัตรูและถ้วยไวน์มีความหมายสำหรับผู้ที่มาเป็นเพื่อนพ้องนั่นเอง

สนใจ เที่ยวจอร์เจีย คลิก   ช่อง Youtube คลิก