ทัวร์ยุโรป
เที่ยวแบบ ธรรมชาติบำบัด ไปกับ แพนด้า ฮอลิเดย์
เที่ยวแบบ ธรรมชาติบำบัด ไปกับ แพนด้า ฮอลิเดย์
1. อุทยานแห่งชาติมาซาดา (Masada National Park) ประเทศอิสราเอล
อุทยานแห่งชาติมาซาดา นี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมระหว่างประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนที่ราบทางตะวันออกของทะเลทราย Judean และทะเล Dead Sea ซึ่งเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอย่างมากของประเทศอิสราเอล
มีพระราชวังโบราณ (Herod the Great’s palaces) อยู่ด้านใน และเป็นสถานที่ฆ่าตัวตายหมู่ของกบฏชาวยิวจากการล้อมจับของทหารโรมัน เพื่อประกาศชัยชนะ และศักดิ์ศรี ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นอีกแห่งที่มีมนต์ขลังจวบจนถึงปัจจุบัน
2. อุทยานแห่งชาติหุบเขาจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhai Valley National Park) ประเทศจีน
อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ต้องทำให้คุณหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของทะเลสาบสีเขียวคราม และน้ำตกที่สวยราวภาพวาด หุบเขาจิ่วจ้ายโกว นี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซานทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวนนอกจากทะเลสาบและน้ำตกที่สวยงามตระการตาแล้ว ที่นี่ยังเป็นบ้านของกล้วยไม้นานาพันธุ์ และสัตว์อนุรักษ์ อย่างหมีแพนด้า อีกด้วย อุทยานแห่งชาติหุบเขาจิ่วจ้ายโกวนี้จึงถูกตั้งเป็นพื้นที่มรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนตุลาคม
3. อุทยานแห่งชาติฟูจิ ฮะโกะเนะ อิซุ (Fuji Hakone Izu National Park) ประเทศญี่ปุ่น
อุทยานแห่งชาติฟูจิ ฮะโกะเนะ อิซุ เป็นอุทยานที่มีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติทั่วโลกเข้าชมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เป็นบ้านของ “ฟูจิซัง” หรือภูเขาไฟฟูจิ นั่นเองนอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าประทับใจอย่าง ทะเลสาบฟูจิทั้งห้า, บ่อน้ำพุร้อนฮะโกะเนะ, คาบสมุทรอิซุ และเกาะอิซุ
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
4. อุทยานแห่งชาติซันดาร์บานส์ (Sundarbans National Park) ประเทศอินเดีย
อุทยานแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าชายเลนแบบผืนเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีเนื้อที่มากถึง 4,000 ตารางไมล์ ตั้งอยู่บนพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคา แม่น้ำพรหมบุตร และแม่น้ำเมฆนาเป็นพื้นที่สุดท้ายที่มีเสือเบงกอลป่าอาศัยอยู่และถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1997 นอกจากนี้ยังเป็นบ้านของสัตว์ป่านานาชนิด ทำให้กลายเป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนตุลาคม
5. อุทยานแห่งชาติเกอเรเม (Göreme National Park) ประเทศตุรกี
เกอเรเม และหินทรงประหลาดในบริเวณคัปปาโดเกีย ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว ด้วยลักษณะที่มีรูพรุนเข้าไปในภูเขาทำให้มีคนหัวใสย้ายเข้าไปตั้งถิ่นฐานเป็นบ้านถ้ำมาหลายศตวรรษ และที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในตุรกีเรื่อยมา
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนตุลาคม
6. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) ประเทศเกาหลีใต้
อุทยานแห่งชาติ ฮัลลาซาน ตั้งอยู่บนเกาะเซจู (Island of Jeju) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของช่องแคบเกาหลี บนยอดเขาฮัลลาซาน นั้นเคยเป็นบริเวณปากปล่อง ของภูเขาไฟ ซึ่งดับสนิทแล้วในปัจจุบัน ทำให้เกิดทะเลสาบเล็กๆ ขึ้น ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามจนนักท่องเที่ยวอดใจไม่ได้ต้องปีนขึ้นไปเห็นด้วยตาสักครั้งนอกจากนี้ที่นี่ยังเต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีความหลากหลายของเกาะ ตั้งแต่กึ่งเขตร้อนไปจนถึงค่อนข้างหนาวจัด ทำให้เป็นระบบนิเวศที่หลากหลาย ทำให้พืชพันธุ์ในบริเวณนี้มีความสวยงามแตกต่างกันไป รวมไปถึงน้ำตกที่งดงาม ทำให้ UNESCO ขึ้นทะเบียนที่นี่เป็นหนึ่งในมรดกโลก
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนเมษายน / เดือนตุลาคม
7. อุทยานแห่งชาติ Gunung Gede Pangrango National Park ประเทศอินโดนีเซีย
ที่นี่เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีถึง 2 ภูเขาไฟในทางตะวันตกของชวา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หายากของโลกที่แทบจะไม่มีขึ้นที่ไหนยกเว้นที่นี่เท่านั้น และยังมีสัตว์ป่าหายากด้วยเช่นกัน เช่น เสือดาว เป็นต้น นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ของอุทยานยังเป็นไร่ชา ทำให้สามารถมองเห็นวิวที่สวยสุดๆ ของอินโดนีเซียได้ ณ ที่นี่
ช่วงที่น่าไปที่สุด เดือนพฤศจิกายน – เดือนเมษายน
8. อุทยานแห่งชาติเกนติ้ง (Kenting National Park) ประเทศไต้หวัน
นี่คือพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยแนวปะการัง และชายหาดที่สวยสะดุดตา ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศไต้หวัน ที่นี่มีประภาคารสูงเด่นสีขาวที่เรียกว่า “Eluanbi Lighthouse” ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก และช่องแคบไต้หวัน
นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อนทำกิจกรรมสนุกๆ ทางทะเล ทั้งว่ายน้ำ, ดำน้ำลึก, ดำน้ำตื้น และขี่เจ็ทสกี
ช่วงที่น่าไปคือ เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกันยายน
9. อุทยานแห่งชาตินิกโก้ (Nikko National Park) ประเทศญี่ปุ่น
อุทยานแห่งชาตินิกโก้ นั้นเป็นอุทยานที่สามารถเข้าชมไปตลอดทั้งปีด้วยความงดงามของน้ำตก และทะเลสาบ Chuzenji โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่จะสวยงามไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu) ที่สร้างได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ที่สำคัญยังสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันระหว่างพุทธกับชินโตสร้างมนต์เสน่ห์และความศักดิ์สิทธิ์ความสถานที่แห่งนี้
ช่วงที่น่าไปคือ เดือนตุลาคม
10.ทะเลสาบเดดซี”(Dead Sea) ประเทศจอร์แดน
เป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่น่าสนใจเนื่องจากสภาพภูมิประเทศของทะเลสาบเดดซีที่ตั้งอยู่ในเขตประเทศจอร์แดน รัฐปาเลสไตน์ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศที่แห้งแล้งและร้อนระอุที่สุดในประเทศแถบตะวันออกกลางช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการมาท่องเที่ยวในประเทศจอร์แดนคือช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม เพราะจะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลทะเลสาบเดดซีขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลก มีปริมาณเกลือสูงถึง 30 % ของปริมาณน้ำทั้งหมด เมื่อเทียบกับท้องทะเลทั่วไปอย่างอ่าวไทยบ้านเรานั้นมีปริมาณเกลืออยู่เพียง 3 % เท่านั้น ด้วยความหนาแน่นของเกลือนั่นเองที่ทำให้เราสามารถเอนกาย ทิ้งตัวล่องลอยอยู่บนผืนน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม
11.อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff Nationnal Park)ประเทศแคนาดา
สวรรค์แห่งธรรมชาติที่คนทั่วโลกอยากไปสัมผัส ซึ่งทะเลสาบเลค หลุยส์ (Lake Louise)ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโด่งดังอีกหนึ่งแห่งของแคนาดา ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาให้งดงามเหนือกาลเวลา สวยสง่าอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) รัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) ประเทศแคนาดา ซึ่งล้อมรอบไปด้วยแนวของเทือกเขาร็อคกี้ เมาท์เทน (Rocky Mountains)ทะเลสาบแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามราวกับดินแดนในฝัน ทั้งผืนน้ำที่เป็นสีฟ้าเทอควอยซ์ใสสะอาด สามารถมองเห็นใต้ทะเลสาบได้อย่างชัดเจน ซึ่งในทะเลสาบก็มีพืชพรรณและสัตว์น้ำหลากหลายชนิด อีกทั้งยังเย็นฉ่ำถึงใจ เพราะน้ำในทะเลสาบส่วนหนึ่งก็ไหลมาจากธารน้ำแข็งนั่นเอง
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนเมษายนและเดือนตุลาคม,ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน
12.อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (Plitvice Lakes Nationnal Park) ประเทศโครเอเชีย
อุทยานแห่งชาติพลิทวิทเซ่"อยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สุดเมื่อใครมีโอกาสเดินทางมาเที่ยวประเทศนี้ จุดเป้าหมายที่สำคัญคือการได้มาที่นี่เพื่อเที่ยวชมความงดงามและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่จัดสรร ไว้ได้อย่างลงตัวและงดงามมากๆครับ อุทยานแห่งชาติ พลิทวิทเซ่แห่งนี้ เป็น หนึ่งในสวนสาธารณะแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้และอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียทาง ยูเนสโกได้ประกาศให้สถานที่แห่งนี้ เป็น"มรดกโลก
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม
13.อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite nationnal park) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทิวทัศน์ที่งดงามติดอันดับโลกจากหุบเขากลางอุทยานแห่งชาติโยเซมิที หุบเขาโยเซมิทีเปรียบเสมือนหัวใจสีเขียวมรกตของอุทยานแห่งชาติโยเซมิ ตื่นตากับกำแพงหินแกรนิตสูงตระหง่าน รวมถึงจุดท่องเที่ยวที่โดดเด่นของอุทยานแห่งชาติที่ขนาบหุบผาชันยาว 13 กิโลเมตรแห่งนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนในหุบเขาโยเซมิที คุณจะได้เห็นน้ำตกยิ่งใหญ่ที่กระซ่านเซ็นจากยอดเขาด้านบน ที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Yosemite Falls ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ น้ำตกอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ Sentinel Fall, Bridalveil Fall และ Nevada Fal
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์
14.อุทยานแห่งชาติในเทือกเขาแอลป์ อุทยานแห่งชาติสวิส(Swiss Nation Park) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เป็นเขตรักษาธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แถมยังเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดบนเทือกเขาแอลป์อีกด้วย มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติทั้งพืชและสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะสวยงามมาก
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
15.อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone nationnal park) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอเมริกาอันเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามและน่าอัศจรรย์ใจ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ และน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำพุร้อนหลากสี, ทะเลสาบ, ภูเขาไฟใต้พื้นดิน (Supervolcano), บ่อโคลนเดือด, น้ำตกมากกว่า 300 แห่ง, ไกเซอร์ (geysers) มากกว่า 10,000 แห่ง และป่าเขา แม่น้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์รอบ ๆ อุทยาน อันเกิดจากความหลากหลายด้านธรณีวิทยา
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม
16.เมืองอินเตอร์ลาเคน(Interlaken city) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) จะถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา ทำให้บรรยากาศธรรมชาติและมีความสดชื่นของเหล่าต้นไม้เล็กใหญ่รายรอบเมือง อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเที่ยว 1-2 วันได้สบายๆ อาคารบ้านเรือนสวยงามหลากหลายสีสัน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเพิ่มสีสันให้เมือง อินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ไม่ดูเงียบเหงาจนเกินไป เหมาะมากสำหรับการพักผ่อน
ช่วงที่น่าไปคือช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม