“แชงกรีล่า หรือ เดิมมีชื่อว่า เมืองจงเตี้ยน”

เป็นชุมชนเก่าของชาวทิเบต มีชื่อเสียงจากวรรณกรรมบันลือโลก Lost Horizons ของ เจมส์ ฮิลตัน ในปี ค.ศ. 1933 จงเตี้ยน หรือ แชงกรีล่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน เขตปกครองพิเศษของชาวทิเบตตี๋ชิง บนที่ราบในวงล้อมของขุนเขา ลักษณะภูมิประเทศของจงเตี้ยน เป็นที่ราบทุ่งหญ้า มีภูเขาล้อมรอบ คำว่า “จง” นั้นหมายถึงศูนย์กลางหรือสิ่งที่กว้างใหญ่อันเป็นศูนย์กลาง ส่วน “เตี้ยน” นอกจากจะแปลว่าทุ่งหญ้าแล้ว ยังแปลว่า อาณาจักร ได้ด้วย ในปี พ.ศ 2545 รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยนอีกครั้ง จากเดิมที่มีชื่อในภาษาทิเบตว่า “เจี้ยนถัง” เป็น “แชงกรี-ล่า” ภาษาจีนออกเสียงว่า เซียงเกอ หลี ลา (Xiang Ge Le La) แปลว่า ที่ซึ่งสุริยันจันทราประทับในดวงจิต เมืองจงเตี้ยนนั้นเป็นถิ่นฐานของชาวทิเบตซึ่งตามชานเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านที่ก่อดินขึ้นเป็นตึกสี่เหลี่ยม แต่งด้วยไม้ซุงขนาดใหญ่ ผู้คนยังแต่งกายชุดพื้นเมือง

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแชงกรีล่า

★ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ตั้งอยู่ห่างจากแชงกรีลาประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นหุบเขาสูงเกิน 4,000 เมตร เป็นหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี เชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าในลี่เจียง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นยอดสูงสุดของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินโดยขึ้นกระเช้าไป 2 ช่วง โดยจุดเปลี่ยนกระเช้าจุดแรก จะมีศูนย์ท่องเที่ยวหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน เมื่อเปลี่ยนกระเช้าแล้ว จะเดินทางถึงยอดเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์ทะเลหุบเขาล้อมรอบได้ถึง 360 องศา ยอดเขาสูงสุดของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน คือ “สือข่า” ซึ่งสูงถึง 4,449 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล - ฤดูท่องเที่ยวของหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน จึงเหมาะสมทั้งในฤดูร้อน และฤดูหนาว ★ วัดซงจ้านหลิน หรือ วัดกุ้ยหัว (Songzanlin) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 ก่อนถูกทำลายในทศวรรษที่ 1950 และสร้างใหม่ ในสมัยองค์ดาไลลามะที่ 5 ในปี ค.ศ. 1679 ใช้เวลาสร้าง 3 ปี ตั้งชื่อตามพระนามขององค์ดาไลลามะว่า “เกอตันซงจ้านหลิน” สถาปัตยกรรมหอกลาง มีลักษณะคล้ายพระราชวังโปตาลาที่กรุงลาซา เป็นวัดนิกายลามะแบบทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และในยามเทศกาลชาวทิเบตที่นี่ยังรักษาประเพณีด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน ★ เมืองโบราณจงเตี้ยน อยู่ในเมืองแชงกรีล่า บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ในสไตล์ทิเบต ที่สร้างขึ้นมาเพื่อต้องการสื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เข้าใจถึงความเป็นมาและย้อนเวลาไปสู่อดีตของแชงกรีลา เมืองเก่าจงเตี้ยน ตั้งอยู่ติดกับยอดเขาเล็ก ๆ ซึ่งบนยอดเขานั้นมี กงล้อมนต์ยักษ์สูงกว่า 3 ชั้นอยู่ ชาวธิเบตและ นักท่องเที่ยว นิยมไปหมุนกงล้อนี้เพื่อความเป็นสิริมงคล ★ ภูเขาหิมะเหมยลี่ หรือในภาษาทิเบตเรียกว่า “คาวากาโป (คาวาเก๋อโป) ซึ่งหมายถึง “ภูเขาหิมะขาว” ภูเขาหิมะเหมยหลี่ ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่าไตรมหานที คือเป็นจุดรวมตัวของแม่น้ำสามสาย ได้แก่ แม่น้ำจินซาเจียง (ต้นธารแม่น้ำแยงซีเกียง) แม่น้ำหลั่นชางเจียง (แม่น้ำโขงตอนบน) และแม่น้ำนู่เจียง (แม่น้ำสาละวิน) ด้านทิศเหนือติดกับภูเขาอาตงเก๋อหนีในทิเบต ทิศใต้ติดกับภูเขาหิมะปี้หลัว ยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูง 6,740 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในมณฑลยูนาน ยอดเขานี้มีลักษณะคล้ายเจดีย์ทอง และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ของเขตที่ราบสูงทิเบต บนภูเขาหิมะเหมยหลี่ยังมีธารน้ำแข็ง ถึง 4 แห่ง ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดได้แก่ธารน้ำแข็ง “หมิงหย่ง” โดยธารน้ำแข็งดังกล่าว ทอดตัวจากบนภูเขาหิมะเหมยหลี่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 6740 เมตร ลงมายังเขตป่าดงที่อยู่ด้านล่างที่ระดับน้ำทะเล 2700 เมตร ด้วยความยาว 7 กิโลเมตร นับเป็นธารน้ำแข็งที่ทอดตัวลงมาทางทิศใต้มากที่สุดของจีน แต่เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การละลายของธารน้ำแข็งที่ขยายตัวเร็วขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งนี้มีการหดตัวราวปีละ 50 เมตร - ฤดูท่องเที่ยวของภูเขาหิมะเหมยลี่ คือในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม หรือปลายฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการมาชมความงดงามของภูเขาหิมะเหมยลี่ - สภาพอากาศ หนาวเย็นตลอดทั้งปี อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 4 องศาเซลเซียส เดือนที่ร้อนที่สุด คือเดือนกรกฎาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 11 องศาเซลเซียส เดือนที่หนาวที่สุด คือเดือนมกราคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -3 องศาเซลเซียส ในหนึ่งวันอาจมีทั้งฝนตก แดดออก หิมะตก หมอกลงจัด ลมพัดแรง โดยเฉพาะที่ระดับความสูง 3,000 เมตรขึ้นไป มักจะมีฝนตก หิมะตกอยู่เป็นประจำ ในช่วงฤดูหนาว ถนนมักถูกปิดหรือปกคลุมด้วยหิมะ ไม่เหมาะกับการเดินทางไปเที่ยว ★ หุบเขาเสือกระโจน หรือ หู่เที่ยวเสีย เป็นช่องหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลี่เจียงไปทางเหนือ 60 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน เป็นหุบเขาในช่วงที่แมน้ำจินซาเจียง (แม่น้ำทรายทอง) น้ำบริเวณนี้ไหลเชี่ยวมากเกิดจากความลาดชันของโตรกผาสองข้างที่ลดระดับลงอย่างรวดเร็วและช่องแคบที่บีบแคบลงอย่างฉับพลันช่วงที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียง 30 เมตร ยาว 15 กิโลเมตร ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำไหลผ่านระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกที่สูง 5,596 เมตร และภูเขาหิมะฮาป๋าที่สูง 5,396 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำไหลเชี่ยวและอยู่ใต้หน้าผาสูง 2,000 เมตร ผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้มีจำนวนเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองชาวหน่าซีโดยจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆบริเวณใกล้เคียงและหาเลี้ยงชีพโดยการเพาะปลูกและรับจ้างนำทางคนต่างถิ่น ★ โค้งแรกแม่น้ำแยงซี (Changjiangdiyiwan) แม่น้ำแยงซีที่ไหลผ่านเมืองลี่เจียงช่วงนี้มีชื่อว่า “จินซาเจียง” แปลว่าแม่น้ำทรายทอง ณ จุดนี้เองที่แม่น้ำได้หักโค้งข้อศอกเป็นโค้งแรก 180 องศา ทำให้ไหลแยกจากแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำโขง ไปทางทิศตะวันออก ก่อให้เกิดอารยธรรมจีนที่ยิ่งใหญ่เมื่อหลายพันปีมาแล้ว กล่าวกันว่าถ้าไม่มีโค้งนี้ก็อาจไม่มีอารยธรรมจีนอันเกรียงไกร อีกทั้งจุดนี้ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ขบวนทัพของทั้งขงเบ้ง กุบไลข่าน ใช้เป็นจุดข้ามแม่น้ำแยงซีไปทำศึก และเหมาเจ๋อตงเดินทัพทางไกลหนีการล้อมปราบของพวกก๊กมินตั๋งห่างจากเมืองเก่าลี่เจียง 53 กิโลเมตร เกิดจากแม่น้ำแยงซี (หรือที่คนจีนเรียกว่า แม่น้ำฉางเจียง) ที่ไหลลงมาจากที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต มากระทบกับภูเขาไห่หลอ ทำให้ทิศทางของแม่น้ำหักโค้งไปทางทิตะวันออกเฉียงเหนือ จนเกิดเป็นโค้งน้ำที่สวยงาม น่าหลงใหล นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศและความงดงามของโค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียงจะต้องไม่ลืมถ่ายภาพกลับมาเพื่อเป็นที่ระลึก ★ ทุ่งกุหลาบพันปี ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทาง ลี่เจียงถึงแชงกรีล่า ซึ่งจะเป็นทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ตลอดเส้นทาง มักจะมีชาวทิเบตนำรั้วมากั้นเพื่อเก็บค่าเข้าชมท่านละ 5-10 หยวน นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวแชงกรีล่า สามารถชมทุ่งกุหลาบพันปีได้ ณ บริเวณที่ทำการอุทยานหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาสือข่า บริเวณนั้นมีทุ่งกุหลาบพันปีขนาดใหญ่อยู่ด้วยเช่นกัน สนใจ เที่ยวจีน คลิก   ช่องYoutubeคลิก

เรื่องและภาพ : bebe pandaholiday team